หลังจากที่ผ่าน 10 เดือนอันย่ำแย่ แชมป์เก่าพรีเมียร์ ลีก อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้ตัดสินใจแยกทางกับผู้จัดการทีม เดวิด มอยส์
มอยส์พาทีมปีศาจแดงทำผลงานในบ้านได้ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1978 นอกจากนี้ก็ยังฟอร์มแย่จนทำอันดับไปเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1995 ด้วย นอกจากนี้หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำอันดับไปติดท็อป 7 ไม่ได้ก็จะเท่ากับว่าไม่ได้ร่วมเตะในเวทียุโรปรายการใดๆ เลยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990 อีกต่างหาก
นั่นคือที่มาของการแยกทางกันในครั้งนี้ และก็กำลังมีการมองหาคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนมอยส์กันอยู่ โดยตัวเต็งก็คือโค้ชทีมชาติฮอลแลนด์อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล นั่นเอง
นอกจากฤดูกาลนี้จะต้องกล่าวคำอำลากับมอยส์แล้ว ยังมีนักเตะของทีมปีศาจแดงอีกหลายคนที่อาจจะต้องเดินออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด ตามรอย เนมานย่า วิดิช ที่จะไปแน่ๆ แล้วอีกด้วย
มอยส์อาจจะแบกรับความกดดันที่ถูกตำหนิมาตลอดทั้งฤดูกาล แต่มันก็มีนักเตะที่ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นก็มีส่วนที่ทำให้ทีมต้องเจอกับช่วงเวลาอันเลวร้าย และนี่ก็คือนักเตะฟอร์มแย่ 10 คนที่น่าจะตบเท้าออกจากทีมตามรอย เดวิด มอยส์…
10. ริโอ เฟอร์ดินานด์
คู่หูเซ็นเตอร์แบ็คของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อย่าง เนมานย่า วิดิช เตรียมที่จะย้ายไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลาน แบบไร้ค่าตัวหลังจบฤดูกาล ขณะที่อาชีพค้าแข้งของเฟอร์ดินานด์ก็กำลังใกล้จบลงไปทุกทีๆ
กองหลังมากประสบการณ์จะหมดสัญญาลงในเดือนมิถุนายนนี้ด้วยวัย 35 ปี เขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง และก็ไม่ฟิตสมบูรณ์เหมือนเดิม นั่นทำให้เขาได้ลงเล่นในลีกแบบเต็มๆ ไปเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้นนับตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน
ริโอเป็นคนที่จงรักภักดีกับสโมสร เมื่อยืนเป็นภูผาหินในแนวรับคู่กับวิดิชเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตลอดหลายปี
แต่ตอนนี้เขาไม่ได้นักเตะแบบเดิมแล้ว เขาไม่สามารถต่อกรกับคู่ต่อสู้ระดับชั้นนำได้อีกต่อไป นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ เดวิด มอยส์ ตัดสินใจไม่หนีบเขาไปเตะที่กูดิสัน พาร์ค เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย
ช่วงซัมเมอร์นี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องยกเครื่องแนวรับกันขนานใหญ่ มีเพียง ราฟาเอล ดา ซิลวา เพียงคนเดียวเท่านั้นที่น่าจะได้อยู่ต่อเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวา และบางทีก็อาจจะไม่มีที่ว่างให้กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ แล้วก็เป็นได้
9. ปาทริซ เอฟร่า
ปาทริซ เอฟร่า ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างกับทั้ง ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมานย่า วิดิช เขาเป็นนักเตะที่ลงเล่นอย่างยาวนาน และเป็นคนที่โชว์ฟอร์มได้ดี แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว
ที่จริงเอฟร่าอาจย้ายออกไปตั้งแต่เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้วด้วยซ้ำ หากว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จในการคว้าตัว เลห์ตัน เบนส์ เข้ามาเสริมทีม หรือไม่ก็เป็น ฟาบิโอ โคเอนเทรา ของเรอัล มาดริด
สุดท้ายก็ยังเป็นเขาที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะขาดความเร็วไปแล้ว นั่นทำให้เขาหลุดตำแหน่งให้เห็นอยู่บ่อยๆ
บางทีนี่อาจจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด สำหรับแบ็คซ้ายวัย 33 ปี เมื่อทีมปีศาจแดงเล็งที่จะคว้าตัว ลุค ชอว์ ของเซาแธมป์ตันเข้ามาทดแทน ส่วนเอฟร่าเองก็มีข่าวว่าอาจย้ายกลับโมนาโก
เขาเป็นที่รักใคร่ของแฟนๆ และในเกมที่เขายิงประตูบาเยิร์น มิวนิค ได้ เขาก็ได้แสดงความยินดีต่อหน้ากองเชียร์ที่ตามมาให้กำลังใจ แต่จากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ นี่ก็น่าจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายสำหรับ ปาทริซ เอฟร่า แล้วในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด
8. คริส สมอลลิ่ง
คริส สมอลลิ่ง ถูกคว้าตัวเข้ามาโดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์เมื่อ 4 ปีก่อน แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปด้วยดีสำหรับนักเตะวัย 24 ปี เขาประสบปัญหาทั้งใน และนอกสนามมาโดยตลอด
สมอลลิ่งได้ย้ำหลายครั้งว่าเขาต้องการเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค แต่เขาก็ยังไม่ได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมาให้เห็นนับตั้งแต่ย้ายมาจากฟูแล่ม
ด้วยการที่ทั้งเฟอร์ดินานด์ และวิดิชจะอำลาทีมไป ไม่ว่าใครก็ต้องสงสัยว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนตำแหน่งนี้ในระยะยาวได้หรือเปล่า
ล่าสุดสมอลลิ่งก็เพิ่งทำให้อดีตผู้จัดการทีมอย่าง เดวิด มอยส์ ถึงกับเซ็งเมื่อมีภาพหลุดออกมาว่าไปปาร์ตี้ตอนตี 3 ขณะที่ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ นอกจากนี้ยังโดนวิจารณ์กรณีแต่งตัวในงานแฟนซีเป็นมือระเบิดพลีชีพอีกด้วย
อาร์เซนอลเคยมีข่าวว่าเตรียมยื่นข้อเสนอ 13 ล้านปอนด์เป็นค่าตัวของเขา และผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะต้องชั่งใจแล้วว่าจะให้โอกาสกองหลังรายนี้ต่อไป หรือว่าจะขายออกไปเลยดี
บางทีคงมีแฟนปีศาจแดงไม่กี่คนนักหรอกที่จะเสียใจเมื่อเห็นเขาจากทีมไป แม้จะเป็นการย้ายไปร่วมทีมคู่ปรับอย่างอาร์เซนอลก็ตาม
7. หลุยส์ นานี่
หลุยส์ นานี่ ถือเป็นนักเตะที่ค้าแข้งมาอย่างยาวนานในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ก็ยังไม่มีฤดูกาลไหนเลยที่เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
อาการบาดเจ็บทำให้เขาไม่สามารถพัฒนาฝีเท้าไปได้ไกลกว่านี้ได้ โดยล่าสุดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงก็ทำให้ปีกทีมชาติโปรตุเกสได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 81 นาทีเท่านั้นนับตั้งแต่เดือนธันวาคม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาได้ลงเป็นตัวจริงในเกมกับเอฟเวอร์ตัน แต่ก็ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง
เมื่อเดือนมกราคม คาดกันว่านานี่จะย้ายไปร่วมทีมยูเวนตุสแบบยืมตัว แต่อาการบาดเจ็บก็ทำให้แผนนี้ต้องพับลงไปก่อน แต่ก็แทบจะแน่นอนว่าหลังจบฤดูกาลนี้เขาจะย้ายออกจากทีมอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นแบบยืมตัวหรือถาวรก็ตาม
นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ปีกรายนี้ทำประตูไปได้เพียงแค่ 4 ลูกเท่านั้นจากการลงเล่น 33 เกมให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และก็ถือว่าเขาโชคดีมากที่ได้รับการต่อสัญญาออกไปอีก 5 ปีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
6. แอชลี่ย์ ยัง
แอชลี่ย์ ยัง ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญในความย่ำแย่ของแผงกองกลางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนกับนานี่ เขาแทบไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริงเลยนับตั้งแต่ย้ายมายังโรงละครแห่งความฝันเมื่อปี 2011
ยังทำประตูไปได้ 9 ลูก และทำแอสซิสต์ 14 ครั้ง จากการลงเล่น 39 เกมในฤดูกาลสุดท้ายกับแอสตัน วิลล่า ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมปีศาจแดงเมื่อ 3 ปีที่แล้วท่ามกลางความคาดหวังที่สูง
แต่ปีกชาวอังกฤษก็ยังแทบไม่ได้โชว์ฟอร์มเก่งออกมาให้เห็นเลย เขายิงไปได้แค่ 11 ประตูเท่านั้นตลอด 3 ฤดูกาลกับสโมสร และก็ไม่ได้พิสูจน์ฝีเท้าให้เห็นว่าคู่ควรกับสโมสรระดับโลก
ยังนั้นตกเป็นเป้าวิจารณ์เกี่ยวกับการพุ่งล้มอีกด้วย นั่นทำให้ภาพลักษณ์ของเขาในสายตาแฟนบอลไม่ค่อยดีนัก และก็คงมีเพียงไม่กี่คนที่จะเสียใจหากว่ายังต้องย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงซัมเมอร์นี้ ในเมื่อทีมยังมีดาวรุ่งอย่าง แอดนาน ยานูซาย และ วิลฟรีด ซาฮา พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ตรงนี้แทนอยู่
5. มารูยาน เฟลไลนี่
มารูยาน เฟลไลนี่ ถือเป็นการเซ็นสัญญาครั้งใหญ่ตัวแรกของ เดวิด มอยส์ กับสโมสรแห่งนี้ เมื่อทุ่มเงินไปถึง 27.5 ล้านปอนด์ในการดึงตัวเขาออกมาจากเอฟเวอร์ตัน แต่ช่วงเวลาของเขาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็เรียกได้ว่าเป็นหายนะ
ด้วยค่าตัวมหาศาลของเขาทำให้หลายคนผิดหวังกับการเห็นเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องฟื้นฟูกายภาพ แทนที่จะลงมาสร้างผลงานในสนาม บ้างก็ถึงกับฟันธงไปแล้วว่านี่เป็นการซื้อตัวที่ผิดพลาด
บางทีมิดฟิลด์หัวฟูอาจเป็นการซื้อในแบบที่เรียกกันว่าแพนิค บาย เมื่อเขาถูกเซ็นสัญญาเข้ามาในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย ท่ามกลางความกดดันที่ว่ามอยส์ต้องการคว้าตัวใครสักคนเข้ามาให้ได้ในช่วงซัมเมอร์
เขาเคยเป็นดาวซัลโวของเอฟเวอร์ตันมาเมื่อปีที่แล้วด้วยจำนวน 12 ประตู แต่จนถึงตอนนี้กับสโมสรใหม่เขายังส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียวตลอด 20 เกมที่ลงเล่นรวมทุกรายการ
คราวนี้เมื่อทางสโมสรเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ บางทีมิดฟิลด์รายนี้อาจจะต้องพบกับปัญหาแล้วก็ได้ จริงอยู่ที่ว่าการย้ายออกจากทีมหลังผ่านไปเพียงแค่ฤดูกาลเดียวอาจจะดูโหดร้ายไปสักหน่อย แต่ก็เหมือนกับนายเก่าของเขาอย่างมอยส์ เขายังไม่สามารถเข้าไปนั่งในใจแฟนบอลได้เลยจนถึงตอนนี้
4. ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์
ก่อนหน้านี้ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ เคยได้รับการขนานนามว่าเป็น พอล สโคลส์ คนใหม่ แต่จนถึงตอนนี้ก็แทบไม่มีใครนึกถึงคำสรรเสริญเยินยอที่ว่านั้นอีกแล้ว
เคลฟเวอร์ลี่ย์เหลือสัญญากับทีมอีก 14 เดือน และตลอดทั้งฤดูกาลนี้เขาก็ทำประตูไปได้เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น และตอนนี้ก็มีเครื่องหมายคำถามเกี่ยวกับอนาคตของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อ 3 เกมล่าสุดเขาไม่ได้มีชื่อติดทีมเลย
การลงสนามครั้งสุดท้ายของเขาเกิดขึ้นในเกมที่เปิดบ้านแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยได้ลงเล่นเพียง 45 นาทีเท่านั้น และก็แทบจะบอกได้เลยว่านี่เป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังอย่างมากสำหรับเขา เมื่อดูจากสถิติทำประตูได้ 1 ลูก และ 0 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเป็นตัวจริง 17 เกมให้กับสโมสร
เขาถูกวิจารณ์ในแง่ของการเติมเกมรุกที่ไร้ประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ยังมีคำถามในการเล่นเกมรับของเขาด้วยเช่นกัน จากสถิติของ Opta ระบุว่าเขาเข้าปะทะเพียงแค่ 2.69 ครั้งต่อ 90 นาทีเท่านั้นเอง
ถึงกระนั้นก็ยังมีข่าวออกมาว่าอาร์เซนอลให้ความสนใจในตัวนักเตะชาวอังกฤษรายนี้อยู่ โดยแฟนๆ ทีมปืนใหญ่หลายคนไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน อาจกลายเป็นแฟนๆ ปีศาจแดงที่ได้ดีใจกันแทนหากว่าทีมขายเขาไปให้กับทีมในลอนดอน
3. ชินจิ คากาวะ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ชินจิ คากาวะ เป็นนักเตะที่มากด้วยพรสวรรค์ แต่น่าเสียดายที่เขาอาจนำพรสวรรค์ที่ว่านั้นมาทิ้งบนเกาะอังกฤษเช่นเดียวกับ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน และ อันเดรย์ เชฟเชนโก้
เมื่อฤดูกาล 2011/12 กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นทำประตูให้กับทีมได้ถึง 17 ลูก นั่นทำให้หลายคนคาดหวังกับเขาสูงเมื่อย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่กับการค้าแข้งในอังกฤษ เขากลับทำประตูได้เพียงแค่ 6 ลูกเท่านั้นจากการลงเล่น 53 เกม
อันที่จริงปัญหาของเขาก็คือการไม่ได้ยืนในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ที่เขาถนัดต่างหาก การก้าวขึ้นมาของ แอดนาน ยานูซาย ยิ่งทำให้โอกาสลงเล่นของเขาถูกจำกัดลงไปอีก และหลังจากที่ ฮวน มาต้า ย้ายจากเชลซีเข้ามาเมื่อเดือนมกราคม เขาก็ได้ลงเล่นในลีกไปเพียงแค่ 6 เกมเท่านั้นเอง
อาจจะไม่ยุติธรรมนักหากจะบอกว่าคากาวะนั้นฟอร์มตกลงไป ที่จริงเขาเป็นนักเตะที่มากด้วยพรสวรรค์ แต่ก็น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสได้แสดงมันออกมาให้เห็นเลยในเวทีฟุตบอลอังกฤษ
2. ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
จากสถิติแล้วบ่งบอกอย่างชัดเจนว่านี่คือฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ดาวยิงชาวเม็กซิกันทำประตูในลีกได้เพียง 4 ลูกเท่านั้นจากการลงเล่น 20 เกมในฤดูกาลนี้ โดยเมื่อฤดูกาลก่อนเขาทำไปได้ 10 ประตู จากการลงเล่น 22 เกม
แถมการลงเล่นที่ว่ามาของเขานั้น 76.2% มาจากการเปลี่ยนตัวจากม้านั่งสำรองลงไปอีกต่างหาก แต่สำหรับนักเตะที่มีบทบาทเป็นไพ่ตายของทีมก็ยังถือว่าโชว์ฟอร์มได้ไม่น่าประทับใจอยู่ดี เมื่อนำไปเทียบกับ เอดิน เชโก้ ที่รับบทบาทเดียวกับกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขายังสามารถยิงได้ถึง 11 ประตู แม้จะได้ลงเล่นเต็ม 90 นาทีเพียงแค่ 33.3% ในฤดูกาลนี้ก็ตาม
ชิชาริโต้ยังเป็นตัวเลือกรองลงมาจาก เวย์น รูนี่ย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และนั่นก็อาจบีบให้เขาต้องย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปในช่วงซัมเมอร์นี้ หรือไม่บางทีทางสโมสรก็อาจจะต้องมารอดูก่อนว่าเขาจะอยู่ในแผนการทำทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่หรือเปล่า
1. แดนนี่ เวลเบ็ค
มีสื่อหลายสำนักรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า แดนนี่ เวลเบ็ค ต้องการย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องจากไม่มีความสุขกับการค้าแข้งที่นี่อีกต่อไป เขาอยากเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าแทนที่จะถูกถ่างออกไปยืนปีก
แต่ว่ากันตามตรงแล้ว เขาก็ไม่ใช่นักเตะที่คู่ควรกับมาตรฐานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ดี นับตั้งแต่ปี 2008 เขาลงเล่นให้กับสโมสรไปแล้ว 134 เกม และก็ทำประตูไปเพียงแค่ 29 ลูกเท่านั้น แม้ในฤดูกาลนี้เขาจะทำได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อ่น แต่มันก็ยังไม่ใช่ระดับที่เรียกได้ว่าเป็นกองหน้าระดับโลกอยู่ดี หากจะนับย้อนไปถึงปี 2011 ที่เขาได้เริ่มขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเต็มตัว เขาก็ยิงในลีกไปได้แค่ 19 ประตูเท่านั้น
บางทีเวลาของเขากับสโมสรอาจจะหมดลงแล้วก็เป็นได้ เมื่อทีมแชมป์เก่าพรีเมียร์ ลีก ตกเป็นข่าวว่ากำลังเล็งซื้อตัว เอดินสัน คาวานี่ จอมถล่มประตูของปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง มาเสริมทัพ นอกจากนี้ เวย์น รูนี่ย์ ก็เพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมออกไปอีก และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็มีแนวโน้มว่าจะอยู่ต่อหากว่าทีมได้ หลุยส์ ฟาน กัล มาเป็นกุนซือ นั่นคือเหตุผลที่ศูนย์หน้าชาวแมนคูเนี่ยนอาจไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมอีกต่อไป
SiR KeaNo
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC